“โมโม่” เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ผู้ทำหน้าที่ “รับฟัง” คำพูดทุกคำของทุกคนที่ทุกข์ใจ เพื่อให้ทุกคนสบายใจขึ้น แต่หลังจาก “ผู้ชายสีเทา” ผู้ปลุกกระแสการประหยัดเวลา ทุกคนก็ไม่มาหาโมโม่ เมืองที่เคยเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย หัวเราะ หยอกล้อ กลายเป็นเมืองเครียดขรึม ทุกคนแข่งกันทำงาน หลงเหลือเพียงโมโม่ผู้ไม่ตกอยู่ภายใต้เงาร้ายสีเทา และต้องเป็นผู้หาทางออกของปัญหานี้ให้เจอ “โมโม่” เล่มนี้จะช่วยสะกิดให้เราเห็นคุณค่าของการชะลอจังหวะชีวิต และรู้จักเก็บเกี่ยวความสุขให้ตัวเองมากกว่ามุ่งหวังแต่ความสำเร็จลมๆ แล้งๆ ที่ต้องแลกมาด้วยความโดดเดี่ยวและอ้างว้าง
“เรามีปฏิทิน และนาฬิกาสำหรับวัดเวลา แต่เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันมากไปกว่านั้น เพราะเรารู้กันอยู่แล้วว่า บางครั้งเวลาหนึ่งชั่วโมงก็นานเหมือนกับจะไม่รู้จักมีที่สิ้นสุด แต่บางทีกลับเหมือนเป็นเพียงพริบตาหนึ่ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะประสบอะไรในชั่วโมงนั้น เพราะเวลาคือชีวิต และชีวิตสถิตอยู่ในหัวใจ”