ฮาโรลด์ ฟราย เพิ่งปลดเกษียณจากอาชีพเซลล์แมนได้ประมาณ 6 เดือน เขาใช้ชีวิตแต่ละวันหลังปลดเกษียณอย่างเลื่อนลอยภายในบ้านอันเงียบเหงากับภรรยาที่แสนจะเย็นชา วันหนึ่งเขาได้รับจดหมายจากควีนนี่อดีตเพื่อนร่วมงานที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน 20 ปี เธอเขียนมาลาฮาโรลด์ เพราะขณะนี้เธอป่วยเป็นโรงมะเร็งขั้นสุดท้าย ฮาโรลด์ตั้งใจส่งจดหมายตอบ แต่ระหว่างเดินไปยังที่ทำการไปรษณีย์ จู่ๆ เขาก็ตัดสินใจว่าจะไปบอกลาควีนนี่ที่พักอยู่ในโรงพยาบาลซึ่งอยู่ห่างออกไป 600 ไมล์ด้วยตัวเอง และเขาจะเดินเท้าไป โดยที่ยังสวมเพียงเสื้อกันหนาวบางๆ ไม่มีแม้กระทั่งรองเท้าที่เหมาะสมหรือโทรศัพท์มือถือ
ช่วงเวลาหลายเดือนกับระยะทางอันแสนยาวไกลทำให้ฮาร์โรล์ได้พบเจอผู้คน ได้รับน้ำใจจากเพื่อนมนุษย์ และรับรู้เรื่องราวแปลกใหม่ในชีวิตมากมาย เช่น หญิงแปลกหน้าที่ชวนเขานั่งดื่มชา หญิงต่างชาติที่ยอมเปิดบ้านให้เขาพัก ทั้งยังช่วยรักษาบาดแผลที่เท้าของเขาอย่างไม่รังเกียจ และกลุ่มคนที่ยกย่องเชิดชูเขาจนขอมาร่วมเดินทางด้วย เป็นต้น ที่สำคัญเขาได้มีโอกาสคิดทบทวนถึงความผิดพลาดและความล้มเหลวที่ผ่านมาของตัวเอง ทั้งในฐานะสามี พ่อ และเพื่อน โดยเฉพาะความขัดแย้งกับเดวิดลูกชายคนเดียว ขณะเดียวกันภรรยาของเขาที่รอคอยอยู่ที่บ้านก็รู้สึกแปลกใจตัวเองเมื่อพบว่า เธอยังรักและห่วงหาอาทรสามีไม่เสื่อมคลาย
ไม่ว่าการเดินทางครั้งนั้นจะยากลำบากแค่ไหน หากเปี่ยมไปด้วยความเชื่อที่มาจากใจจริงๆ การเดินทางครั้งนั้นจะกลายเป็นความทรงจำที่มีความหมายแน่นอน